คอเลสเตอรอล คืออะไร?
คอเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกาย มีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง โดยทั่วไปแล้วเราสามารถสร้างคอเลสเตอรอลเองได้จากตับ แต่คอเลสเตอรอลที่มากเกินไปอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
การสร้างคอเลสเตอรอลให้แก่ร่างกาย
มีทั้งหมด 2 แบบคือ ร่างกายสร้างเองและจากการรับประทานอาหาร
โดยปกติร่างกายของเรานั้นคอเรสเตอรอลสามารถสร้างเองได้จาก ตับ ไขสันหลัง สมองและผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้วันละ 80 – 1500 มิลลิกรัม ส่วนคอเรสเตอรอลที่สร้างจากการรับประทานอาหารนั้น พบได้จากอาหารที่มาจากสัตว์
ประเภทของคอเลสเตอรอล
การที่คอเลสเตอรอลจะมีผลดีหรือผลเสียต่อร่างกายนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของไขมัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
1. ไขมันดี (High-density Lipoprotein: HDL) คือ คอเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ระดับไขมันที่ดีควรอยู่ที่ 40-60 mg/dl ซึ่งมีบทบาทในการลำเลียงคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ออกจากหลอดเลือดแดงและเนื้อเยื่อไปยังตับเพื่อขับออก ทั้งยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางหลอดเลือด เนื่องจาก HDL ยังมีบทบาทในการยับยั้งออกซิเดชัน การอักเสบ และการแข็งตัวของเลือด การบริโภคไขมันดีอย่างเหมาะสมจึงช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจ
2. ไขมันเลว (Low-density Lipoprotein: LDL) คือ คอเรสเตอรอลที่เป็นโทษต่อร่างกาย เป็นไขมันที่ชอบจับตัวสะสมตามผนังหลอดเลือด หากมีมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ ความดันสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย
การตรวจวัดระดับไขมันในเลือด
คำแนะนำทั่วไปคือ ควรตรวจครั้งแรกเมื่ออายุ 35 ปีหรือควรตรวจทันทีในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน สูบบุหรี่ มีประวัติครอบครัวของโรคหลอดเลือดและหัวใจ เป็นต้น
วิธีดูแลตนเองหากมีไขมันเลว (LDL) เกินค่ามาตรฐาน
• รับประทานยาลดไขมันตามคำสั่งแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ เช่น เค้ก คุกกี้ ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน เนย มาการีน
• รับประทานอาหารที่มีปริมาณใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง เมล็ดธัญพืช ผักใบเขียว และแอปเปิล
• ลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ