รากเทียมเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุดรากเทียม ประกอบด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ
1. รากเทียม (Fixture) ทำมาจากโลหะไทเทเนียม มีรูปร่างคล้ายรากฟัน จะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร สามารถยึดติดกับกระดุกขากรรไกรได้โดยไม่ทำให้เกิดการอักเสบ และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
2. แกนครอบฟัน (Abutment) เป็นส่วนที่ต่อขึ้นมาจากรากเทียม เพื่อรองรับครอบฟัน
3. ครอบฟัน (Crown) เป็นส่วนที่เป็นตัวฟัน ทำจากโลหะ หรือเซรามิค มีรูปร่างลักษณะเหมือนฟันธรรมชาติรากเทียมสามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติ สามารถทำได้กับทุกคนที่สูญเสียฟันแท้ไป
ขั้นตอนในการทำรากเทียม
ขั้นที่ 1 ตรวจและประเมินสภาพฟัน ทันตแพทย์จะทำการตรวจและ X- Ray เพื่อประเมินสภาพของกระดูกขากรรไกรว่าเพียงพอต่อการฝังรากเทียมหรือไม่หาก ไม่เพียงพอ อาจต้องมีการปลูกกระดูกเพื่อให้มีปริมาณกระดูกที่เพียงพอต่อการรองรับราก เทียม
ขั้นที่ 2 ฝังรากเทียม ทันตแพทย์จะทำการฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกร และรอประมาณ 3 -4 เดือน ให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกร และ มีความแข็งแรงเพียงพอ
ขั้นที่ 3 ทำร่องเหงือก ทันตแพทย์จะทำการใส่ตัวทำร่องเหงือก (Gingival former) เพื่อสร้างเหงือกรอบๆ ตัวฟัน และรอประมาณ 10 – 14 วัน เพื่อให้ได้รูปร่างเหงือกที่เหมาะสม สำหรับขั้นที่ 3 นั้น หากในวันที่ฝังรากเทียม ทันตแพทย์ประเมินแล้วว่ารากเทียมมีความแข็งแรงดี อาจจะพิจารณาใส่ตัวทำร่องเหงือก (Gingival former) ในคราวเดียวกับที่ฝังรากเทียมเลย
ขั้นที่ 4 จำลองครอบฟัน ทันตแพทย์จะทำการต่อแกนครอบฟันบนรากเทียม จากนั้นจะทำการพิมพ์ปาก และนำแบบจำลองส่งทำครอบฟันต่อไป
ขั้นที่ 5 ใส่ครอบฟัน หลังจากนั้นประมาณ 10 – 14 ทันตแพทย์จะทำการใส่ครอบฟันซึ่งมีรูปร่างสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ