
พญ.วิลาวัลย์ สุริยายนต์
บริเวณหู คอ จมูก เรียกว่าเป็นไซเรนแอเรียหรือบริเวณหลบซ่อน เมื่อมีอาการบางอย่างในบริเวณนี้ หลายคนจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วอาจจะมีโรคร้ายซ่อนอยู่ เช่น หากเรารู้สึกหูอื้อ มีเสียงดังในหู อาจจะเป็นอาการนำของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก หรืออาจจะเป็นประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน ซึ่งถ้าไม่มาหาหมอภายในสองสามวันก็อาจทำให้ประสาทหูเสื่อมถาวรได้
บางครั้งแค่จมูกไม่ได้รับกลิ่น อาจเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก หรือแม้กระทั่งเนื้องอก ดังนั้นเมื่อมีอาการก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดจะดีกว่า
หลังจาก พญ.วิลาวัลย์ สุริยายนต์ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้ว คุณหมอได้เข้าศึกษาต่อวุฒิบัตรโสต ศอ นาสิก ที่โรงพยาบาลราชวิถี และยังศึกษาต่อยอดอีกชั้นหนึ่งในหลักสูตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขานาสิกวิทยาและโรคภูมิแพ้ ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการศึกษาและการทำงานว่า…
รักษาคนไข้โรคหู คอ จมูก ทั้งการให้ยา วัคซีน และการผ่าตัด
คนไข้ที่คุณหมอวิลาวัลย์ ดูแลรักษา หลักๆ ก็จะมาด้วยโรคทั่วไปที่เกี่ยวกับหู คอ จมูก โดยคนไข้ที่มีอาการทางจมูกและไซนัสมักมาด้วยอาการเยื่อบุจมูกอักเสบ ซึ่งมีทั้งที่เกิดจากภูมิแพ้และที่ไม่เกี่ยวกับภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง…
“การรักษากลุ่มโรคภูมิแพ้และไซนัส หมอจะใช้วิธีการรักษาแบบองค์รวม คือมีทั้งการให้ยา การผ่าตัด รวมถึงการฉีดวัคซีน ซึ่งจากประสบการณ์และความรู้ที่ได้ศึกษาเพิ่มเติม ทำให้จากในอดีตที่หมอเคยรักษาด้วยการให้ยาเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันหมอก็จะมีการรักษาด้วยการผ่าตัดด้วย ทำให้การรักษาครอบคลุมมากขึ้นในคนไข้แต่ละราย”
การผ่าตัดส่องกล้องโดยใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency)
ในด้านการผ่าตัดนั้น ปัจจุบัน คุณหมอวิลาวัลย์ จะใช้เทคนิคการผ่าตัดผ่านกล้องด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เข้ามาช่วยในการรักษาภูมิแพ้จมูก การผ่าตัดไซนัสโดยวิธีส่องกล้องร่วมกับการใช้เครื่องมือปั่น ตัด ดูด (Microdebrider) เพื่อรักษาริดสีดวงจมูกและไซนัสอักเสบเรื้อรังและเนื้องอกในจมูกและโพรงไซนัส โดยที่คนไข้ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล…
“คนไข้โรคภูมิแพ้มักจะมีอาการจาม น้ำมูกไหล ซึ่งประมาณ 90% ทางโรงพยาบาลจะให้ยากลับไปทาน ร่วมกับการแนะนำให้ปรับวิธีการใช้ชีวิต ปรับสิ่งแวดล้อม ลดปัจจัยที่จะทำให้อาการกำเริบ ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้ก็จะมีอาการดีขึ้น แต่จะมีประมาณ 10% ที่อาการไม่ดีขึ้น แม้จะทานยาและปรับสิ่งแวดล้อมแล้ว ในกรณีแบบนี้หมอก็จะพิจารณาถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดโดยการส่องกล้องแบบใช้คลื่นวิทยุ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่ดีขึ้นเกือบ 100% นับเป็นการคืนคุณภาพชีวิตให้กับคนไข้เลยทีเดียว”
รักษาอย่างครอบคลุม มุ่งส่งเสริมการป้องกัน
กลุ่มคนไข้ที่คุณหมอวิลาวัลย์ ดูแล ในกลุ่มโรคภูมิแพ้ นั้นมักจะเป็นกันทั้งครอบครัว เพราะสาเหตุของโรคส่วนหนึ่งจะมาจากพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมที่คนไข้ใช้ชีวิตอยู่ก็จะเหมือนๆ กัน เมื่อคุณหมอทราบถึงสิ่งแวดล้อมและปัจจัยกระตุ้นโรคของคนไข้ นอกเหนือจากการรักษาด้วยวิธีต่างๆ แล้ว คุณหมอก็ยังให้คำแนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงหรือจัดการกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวกระตุ้น ในส่วนคนไข้กลุ่มพนักงานบริษัท ก็มักจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คล้ายๆ กัน เมื่อคนไข้คนหนึ่งหายจากโรคหรือมีอาการดีขึ้น จึงมักมีการแนะนำบอกต่อกันไป คุณหมอมีคำแนะนำ…
“สำหรับผู้ที่เวลาเจอฝุ่นละออง หรือมีปัจจัยกระตุ้นแล้วมีอาการจาม มีน้ำมูกใสๆ ไหลเล็กน้อย เมื่อทานยาแก้แพ้แล้วดีขึ้น ก็จะจัดอยู่ในกลุ่มที่มีอาการไม่มาก จึงไม่ค่อยจะมาพบแพทย์ แต่ถ้าคนไหนมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน คัดแน่นจมูก จามมาก จามบ่อยๆ น้ำมูกไหลจนเสียบุคลิกภาพ ภาวะการนอนไม่ดี ประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรือหนักถึงขนาดจมูกไม่ได้กลิ่น แบบนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและควบคุมอาการของโรค จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”