พญ.จุฑาทิพย์ สินยอดเยี่ยม
ด้วยความรักในอาชีพ และความจริงใจที่มีต่อคนไข้ คุณหมอจึงดูแลรักษาคนไข้อย่างละเอียดรอบคอบ และพร้อมให้คำปรึกษาในทุกๆ เรื่องสุขภาพ
พญ.จุฑาทิพย์ สินยอดเยี่ยม สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จากนั้นคุณหมอได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ที่โรงพยาบาลราชวิถี
และยังได้ไปศึกษาดูงานด้านการตรวจคัดกรองความผิดปกติทารกในครรภ์ และตรวจหัวใจทารกในครรภ์ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโชวะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการศึกษาและฝึกทักษะความเชี่ยวชาญด้านการสแกนและอัลตราซาวด์ทารกในครรภ์โดยเฉพาะ
ในด้านนรีเวชนั้น คุณหมอยังได้ศึกษาเพิ่มเติม โดยได้รับประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช จากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และโรงพยาบาลฉางเกิง ประเทศไต้หวัน อีกด้วย คุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในการศึกษาว่า…
ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์และผ่าตัดโรคทางนรีเวช
ปัจจุบันคุณหมอจุฑาทิพย์ เป็นสูตินรีแพทย์ อยู่ที่แผนกสูติ-นรีเวชของโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ซึ่งในด้านสูติ คุณหมอจะดูแลครอบคลุมในส่วนของการฝากครรภ์ ตรวจครรภ์ ทำคลอด ด้วยกระบวนการดูแลรักษาที่เป็นมาตรฐาน เมื่อคุณแม่มาฝากครรภ์ตั้งแต่ครั้งแรกก็จะมีการทำอัลตราซาวด์เพื่อประเมินสุขภาพทารก ซึ่งคุณหมอเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในการทำอัลตราซาวด์ทารกในครรภ์ จากนั้นจะเฝ้าติดตามดูการเจริญเติบโตและตรวจหาความผิดปกติตามระยะเวลาที่เหมาะสม
ส่วนในด้านนรีเวชนั้น ก็จะดูแลคนไข้สตรีทั่วไป และคนไข้กลุ่มที่ต้องใช้การส่องกล้องตรวจหรือรักษา…
“ในช่วงหลังๆ มานี้ หมอจะรักษาคนไข้โดยใช้เทคนิคการส่องกล้องเป็นหลัก ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่ก็จะแฮปปี้และประทับใจกับผลการรักษา บางคนบอกว่าผ่าตัดไปแล้วเหมือนไม่ได้ผ่า เพราะไม่รู้สึกเจ็บเลย บางคนในตอนแรกๆ จะกลัวการผ่าตัดมาก แต่พอผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ปรากฏว่าแฮปปี้มาก ไม่เจ็บไม่ปวด ทั้งอาการที่เคยทุกข์ทรมานจากโรคก็หมดไป ทำให้มีความสุขในการใช้ชีวิต ซึ่งนอกจากจะเป็นความสุขของคนไข้แล้ว ยังเป็นความสุขของหมอด้วย
โรคที่หมอรักษาส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับเนื้องอกมดลูก ซีสต์ ถุงน้ำรังไข่ โดยเฉพาะเมื่อคนไข้ต้องการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ซึ่งเทคโนโลยีการส่องกล้องเป็นทางเลือกการผ่าตัดอีกทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ดีกว่าเดิมมากพอสมควร แถมคนไข้ยังเจ็บปวดน้อยลง มีแผลที่เล็กมาก ฟื้นตัวได้ไว ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลนานอีกด้วย”
ทักษะทางภาษาและประสบการณ์การศึกษา สู่การดูแลคนไข้ที่มีประสิทธิภาพ
ด้วยโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ตั้งอยู่ในเขตเมืองอุตสาหกรรม จึงมีคนไข้ชาวญี่ปุ่นมาให้คุณหมอจุฑาทิพย์ รักษาค่อนข้างมาก เนื่องจากคุณหมอสามารถสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นกับคนไข้ได้ด้วย…
“หมอมีคนไข้ชาวญี่ปุ่นทั้งในส่วนสูติและนรีเวชค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่ารู้สึกแฮปปี้ที่ได้คุยกับหมอโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านล่าม แต่ที่หมอสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นได้ดีก็เพราะหมอเคยไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนั้นหมอเน้นศึกษาด้านการอัลตราซาวด์ ซึ่งมีความแตกต่างกับของไทยเราอยู่พอสมควร คือที่นั่นเขาจะนำเทคโนโลยีเข้ามาประเมินเด็กทารกและลงในรายละเอียดมากกว่า มีงานวิจัยรวมถึงนำผลการศึกษามาใช้เยอะ และยังมีการวางแผนสำหรับอนาคตว่าควรจะทำอัลตราซาวด์ในทิศทางไหนเพื่อให้วินิจฉัยสุขภาพของเด็กได้ดีที่สุด
ซึ่งในช่วงระหว่างรอยต่อที่หมอกำลังจะไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยโชวะ หมอมีโอกาสได้ไปลงเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย ทำให้สามารถสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ ที่นั่นคนส่วนใหญ่จะไม่พูดภาษาอังกฤษกัน แม้แต่ศัพท์ทางการแพทย์ก็ใช้เป็นภาษาญี่ปุ่น พอเขาเห็นว่าเราพอจะสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ เขาก็กล้าที่จะเข้ามาพูดคุยและช่วยอธิบาย นับเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ได้ทั้งความรู้และมิตรไมตรี ทั้งความรู้และภาษาหมอก็ยังนำมาใช้อยู่ในทุกวันนี้”
มุมมองของการเป็นสูตินรีแพทย์ที่ดี
นับถึงปัจจุบัน (2564) คุณหมอจุฑาทิพย์ เป็นสูตินรีแพทย์มากว่า 9 ปี ทั้งด้วยความรักในอาชีพ และความจริงใจที่มีต่อคนไข้ คุณหมอจึงดูแลรักษาคนไข้อย่างละเอียดรอบคอบ และพร้อมให้คำปรึกษาในทุกๆ เรื่องสุขภาพ…
“หมอคิดว่าการพูดคุยกับคนไข้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหลังจากทำการตรวจวินิจฉัยจนระบุรู้ถึงตัวโรคได้แล้ว หมอจะต้องซื่อสัตย์และอธิบายอย่างตรงไปตรงมาทั้งตัวโรคและทางเลือกในการรักษา เพื่อให้คนไข้ได้ทราบอย่างรอบด้าน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคนไข้”