คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม?
- เครียดสะสมจนหลับยาก
- นอนทั้งคืนแต่ตื่นมาไม่สดชื่น
- อารมณ์ขึ้นลงง่าย หงุดหงิดหรือเศร้าโดยไม่รู้สาเหตุ
หลายคนอาจกังวลว่า…นี่คือสัญญาณของ โรคซึมเศร้า หรือไม่? ความจริงแล้ว นอกจาก “สมอง” ที่ควบคุมอารมณ์และการนอน อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ “ลำไส้” ของคุณเอง
ทำไมลำไส้ถึงมีผลต่อการนอนและอารมณ์?
ในร่างกายของเรา มี จุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiota) หลายแสนล้านตัว ที่ทำหน้าที่มากกว่าการย่อยอาหาร แต่ยังส่งผลต่อ
- ฮอร์โมน ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ และความเครียด
- การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- การอักเสบของร่างกาย: ลำไส้ที่เสียสมดุลจะเพิ่มการอักเสบ ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียด (Cortisol) มากขึ้น
- การผลิตสารสื่อประสาท โดยเฉพาะ เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนอนหลับ อารมณ์ และความเครียด
ที่น่าทึ่งคือ เซโรโทนินกว่า 90% ผลิตขึ้นที่ลำไส้ ไม่ใช่สมอง! ดังนั้น เมื่อใดที่จุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล ก็จะส่งผลให้เซโรโทนินทำงานผิดปกติ → หลับยาก หลับไม่สนิท และรู้สึกเครียดง่าย
Probiotic & Prebiotic: คู่หูลำไส้แข็งแรง
- Probiotic (โพรไบโอติก): จุลินทรีย์ดีที่ช่วยย่อยอาหาร สร้างวิตามิน และปรับสมดุลร่างกาย พบในโยเกิร์ต อาหารเสริม
- Prebiotic (พรีไบโอติก): ใยอาหารที่เป็น “อาหาร” ของ Probiotic พบในผัก ผลไม้ เช่น กล้วย หัวหอม กระเทียม
👉ถ้ากินอาหารที่มีพรีไบโอติกมากขึ้น ก็จะช่วยให้จุลินทรีย์ดีในลำไส้แข็งแรง และทำงานได้เต็มที่
งานวิจัยยืนยันว่า Probiotic บางสายพันธุ์ช่วยได้จริง
- Frontiers in Psychiatry (2021): Probiotic หลายสายพันธุ์ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนในคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ
- Nutrients Journal (2020): สายพันธุ์ Bifidobacterium longum 1714 ลดความเครียดและทำให้หลับลึกขึ้น
- Frontiers in Microbiology (2025): Lactiplantibacillus plantarum PS128 ปรับอารมณ์และช่วยให้นอนดีขึ้นในผู้มีปัญหา insomnia
- การเสริม Multi-strain Probiotic (Lactobacillus + Bifidobacterium) ได้ผลดีกว่าการใช้สายพันธุ์เดียว เพราะช่วยทั้งลดอักเสบ ปรับภูมิคุ้มกัน และสมดุลอารมณ์
ถ้าคุณนอนไม่หลับ และเครียดสะสม ลองเริ่มจากสิ่งเหล่านี้
1. รับประทานอาหารที่มี Prebiotic + Probiotic เป็นประจำ
- โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ดี
- อาหารหมัก เช่น กิมจิ มิโซะ กะหล่ำปลีดอง
- ผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น หัวหอม กระเทียม กล้วย ถั่วฝักยาว
- อาหารเสริม Probiotic ที่มีหลายสายพันธุ์และมีงานวิจัยรองรับ
2. ตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome Test)
- ตรวจความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
- ประเมินความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
- วิเคราะห์ผลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน
- ได้คำแนะนำเฉพาะบุคคลเรื่องอาหาร อาหารเสริม และวิธีปรับสมดุลลำไส้
3. ปรับพฤติกรรมเพื่อการนอนที่ดี
- นอน–ตื่นเวลาเดียวกันทุกวัน
- ลดคาเฟอีน / แอลกอฮอล์ในช่วงเย็น
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน โยคะ
- จัดห้องนอนให้สงบ (แสง เสียง อากาศเหมาะสม)
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome Test) เหมาะกับใคร?
การตรวจ Gut Microbiome ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีอาการหรือปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
1. ผู้ที่มีปัญหาการนอน เครียดสะสม อารมณ์แปรปรวน
- หลับยาก หลับไม่ลึก ตื่นมาไม่สดชื่น
- เครียดง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือกังวลว่าตัวเองอาจมีภาวะซึมเศร้า
- อยากหาคำตอบว่าเกี่ยวข้องกับ “จุลินทรีย์ในลำไส้” หรือไม่
2. ผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารเรื้อรัง
- ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเสียบ่อย
- ภาวะลำไส้แปรปรวน (IBS)
- มีอาการท้องอืด แน่นท้อง เป็น ๆ หาย ๆ
3. ผู้ที่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ หรือหลังการรักษา
- การใช้ยาฆ่าเชื้อบ่อยครั้งทำให้จุลินทรีย์เสียสมดุล
- หลังการผ่าตัด/ เคมีบำบัด ต้องการฟื้นฟูลำไส้
4. ผู้สูงอายุ
- เมื่ออายุมากขึ้น ความหลากหลายของจุลินทรีย์ลดลง ส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหาร และคุณภาพการนอน
5. ผู้หญิงที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
- มีปัญหาติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือช่องคลอดบ่อย
- ต้องการเสริมสมดุลฮอร์โมน และภูมิคุ้มกัน
6. คนรักสุขภาพเชิงป้องกัน
- อยากเข้าใจสุขภาพของตัวเองในมุมลึก (personalized health)
- ต้องการวางแผนโภชนาการ อาหารเสริมหรือการใช้ Probiotic และPrebiotic ที่เหมาะกับร่างกายตัวเองจริง ๆ
เริ่มต้นดูแลลำไส้กับศูนย์เวชศาสตร์ป้องกัน และชะลอวัย รพ.พญาไทศรีราชา
ที่นี่ เราไม่ได้มองเพียง “การให้อาหารเสริม” แต่ดูแลคุณแบบองค์รวม โดยแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ป้องกัน
- ตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome Test) อย่างละเอียด
- วางแผนปรับโภชนาการและพฤติกรรมที่เหมาะกับคุณ
- แนะนำ Probiotic และ Prebiotic ที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ