เป็นผู้หญิงต้องรู้ รอบเดือนมาไม่ปกติ ไม่ใช่เรื่องเล็ก

“รอบเดือนมาไม่ปกติ”…สัญญาณเตือน! อย่ามองข้าม…อาจบ่งบอกถึงปัญหา “การตกไข่”

คุณผู้หญิงคะ เคยสังเกต “รอบเดือน” ของตัวเองกันบ้างไหมคะ? การที่รอบเดือนมาสม่ำเสมอเป็นสัญญาณที่ดีของสุขภาพระบบสืบพันธุ์ แต่ถ้ารอบเดือนเริ่ม “มาไม่ปกติ” เช่น มาเร็วไป, ช้าไป, นานๆ มาที, หรือประจำเดือนขาดหายไป นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่บ่งบอกถึงปัญหา “การตกไข่” ได้นะคะ

ทำไม “รอบเดือนไม่ปกติ” ถึงเชื่อมโยงกับ “การตกไข่”?

กระบวนการตกไข่และการมีประจำเดือนมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด โดยฮอร์โมนที่ควบคุมการตกไข่ก็เป็นฮอร์โมนชุดเดียวกันที่ควบคุมรอบเดือน หากฮอร์โมนเหล่านี้เกิดความไม่สมดุล ก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองอย่าง ทำให้:

🟢 ไม่ตกไข่ (Anovulation): เมื่อไม่มีการตกไข่ ก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตามมา ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกออกมา หรือหลุดลอกออกมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้รอบเดือนผิดปกติ หรือประจำเดือนขาดหายไป

🟢 ตกไข่ไม่สม่ำเสมอ (Oligoovulation): การตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้รอบเดือนคาดเดาได้ยาก มาบ้าง ไม่มาบ้าง หรือมีระยะห่างที่เปลี่ยนแปลงไป

🟢 ความผิดปกติของช่วงลูเตียล (Luteal Phase Defect): ช่วงเวลาหลังการตกไข่สั้นเกินไป อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน ถึงแม้จะมีการตกไข่ แต่ก็อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์

ลักษณะของ “รอบเดือนไม่ปกติ” ที่ควรสังเกต:

🟢 รอบเดือนมาเร็วกว่า 21 วัน หรือช้ากว่า 35 วัน
🟢 ระยะเวลาของรอบเดือนสั้นหรือยาวผิดปกติ
🟢 ปริมาณเลือดประจำเดือนมากหรือน้อยผิดปกติ
🟢 มีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
🟢 ประจำเดือนขาดหายไป

อย่ามองข้ามสัญญาณเหล่านี้! หากคุณผู้หญิงมีรอบเดือนที่ไม่ปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลต่อโอกาสในการมีบุตรในอนาคตได้นะคะ