เจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย…อย่าชะล่าใจ! อาการเหล่านี้อาจซ่อน “โรคหัวใจ” ไว้โดยไม่รู้ตัว
การวินิจฉัยอย่างแม่นยำ คือหัวใจสำคัญของการดูแลรักษา
เมื่อพูดถึงโรคหัวใจ หลายคนอาจนึกถึงอาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หรือเหนื่อยง่าย แต่รู้หรือไม่ว่า…อาการบางอย่างอาจซ่อนโรคหัวใจเอาไว้โดยที่คุณไม่รู้ตัว การตรวจวินิจฉัยจึงเป็นหัวใจหลักของการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เราให้ความสำคัญกับความรวดเร็ว แม่นยำ และความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ ด้วยห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ (Cath Lab) ที่ได้มาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์หัวใจเฉพาะทางที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง
Cath Lab คืออะไร?
เบื้องหลังความแม่นยำของการดูแลหัวใจแบบเรียลไทม์
Cath Lab หรือ ห้องสวนหัวใจและหลอดเลือด (Cardiac Catheterization Laboratory) คือห้องตรวจพิเศษที่ใช้เทคนิคการ “สวนหัวใจ” หรือสอดสายสวนขนาดเล็กเข้าสู่หลอดเลือด เพื่อตรวจดูการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจผ่านภาพเอกซเรย์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัย และในบางกรณียังสามารถรักษาได้ทันทีในขณะตรวจ เช่น การขยายหลอดเลือดหัวใจที่ตีบด้วยบอลลูน และใส่ขดลวด
Cath Lab ตรวจอะไรได้บ้าง ?
ครอบคลุมทั้งการวินิจฉัยและรักษาโรคหัวใจในห้องเดียว
- ตรวจหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angiography) ค้นหาว่าหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันหรือไม่ และรุนแรงแค่ไหน
- การขยายหลอดเลือดหัวใจ (Balloon + Stent / PCI) หากพบว่าหลอดเลือดตีบ แพทย์สามารถทำการถ่างขยายหลอดเลือด และใส่ขดลวดเพื่อป้องกันการตีบซ้ำได้ทันที
- การรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยสายสวน (EP Study & Ablation) รักษาอาการหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะโดยการจี้ไฟฟ้าเฉพาะจุด
- การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจในผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นช้า
- การใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ (ICD) ช่วยรักษาผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรง
- การรักษามะเร็งตับด้วยวิธี TACE (Transarterial Chemoembolization) โดยการฉีดยาเคมีบำบัดเข้าไปในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็งตับโดยตรง พร้อมกับสารอุดหลอดเลือด เพื่อตัดเส้นทางการเลี้ยงของก้อนมะเร็ง ทำให้ก้อนมะเร็งขาดเลือดและตายลง
- การทำหัตถการ Embolization คือ การอุดหลอดเลือดหรือลดการไหลเวียนโลหิตในหลอดเลือดที่ผิดปกติ โดยใช้สายสวน (catheter) สอดเข้าไปยังตำแหน่งที่ต้องการอุด แล้วใส่สารอุดหลอดเลือดเข้าไปเพื่อรักษาโรคต่างๆ เช่น ภาวะหลอดเลือดแดงและดำเชื่อมต่อกันผิดปกติ (AVM), ภาวะมีรูรั่วระหว่างหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง (AVF), เส้นเลือดโป่งพอง (Aneurysm), ภาวะเลือดออก, และเนื้องอกที่มีเส้นเลือดไปเลี้ยง
- การรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว (ASD Closure) ด้วยวิธีใส่สายสวนหัวใจ (Transcatheter ASD Closure) เป็นการรักษาที่ทำในห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ (Cath Lab) โดยการสอดสายสวนหัวใจเข้าไปยังตำแหน่งที่ต้องการปิดรูรั่ว และใส่อุปกรณ์ที่กางออกได้เพื่อปิดรูรั่วแทนการผ่าตัดเปิดทรวงอก
- การปิด PDA (Patent Ductus Arteriosus) เป็นหัตถการที่ทำเพื่อแก้ไขภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ (Ductus Arteriosus) ไม่ปิดหลังคลอด ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่เชื่อมต่อหลอดเลือดแดงปอดกับหลอดเลือดแดงใหญ่
เมื่อไหร่ควรตรวจสวนหัวใจ?
สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม!
หากคุณมีอาการหรือความเสี่ยงเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการตรวจสวนหัวใจ :
- เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก โดยเฉพาะเวลาทำกิจกรรมหรือออกแรง
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียผิดปกติ
- มีประวัติความดันสูง เบาหวาน ไขมันสูง
- เคยตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) หรือ ECHO แล้วพบความผิดปกติ
- มีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคหัวใจ
- ผู้ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าหัวใจขาดเลือด หรือมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- กรณีฉุกเฉิน เช่น หัวใจวายเฉียบพลัน (STEMI)
เตรียมตัวอย่างไร?
ก่อน – หลังการสวนหัวใจ ต้องรู้ไว้เพื่อลดความเสี่ยง
ก่อนตรวจ :
- งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- แจ้งแพทย์หากแพ้สารทึบรังสี หรือยาบางชนิด
- หยุดยาบางประเภทตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
หลังตรวจ:
- พักฟื้นและสังเกตอาการประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักภายใน 2-3 วัน
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อขับสารทึบรังสี
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง มีเลือดออก หรือเจ็บมากบริเวณที่สวน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
ทำไมต้องเลือกสวนหัวใจที่ “โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา”?
✅ ทีมแพทย์หัวใจเฉพาะทางครบทีม พร้อมดูแลทั้งโรคหัวใจเรื้อรังและกรณีฉุกเฉิน 24 ชม.
✅ เทคโนโลยีทันสมัย – Bi-plane Cath Lab ให้ภาพคมชัดสองมุมมอง เพิ่มความแม่นยำ ลดเวลาการตรวจและปริมาณรังสี
✅ สวนหัวใจฉุกเฉินรวดเร็วภายใน 25 นาที เร็วกว่ามาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ที่ 90 นาที
✅ ระบบดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพ ดูแลตั้งแต่ก่อนตรวจ ระหว่างการรักษา จนถึงการฟื้นฟูหัวใจอย่างต่อเนื่อง
✅ ห้องผ่าตัดหัวใจและ CCU รองรับกรณีฉุกเฉิน พร้อมให้การรักษาต่อเนื่องโดยไม่ต้องส่งต่อ
หัวใจของคุณ…สมควรได้รับการดูแลที่ดีที่สุด การตรวจสวนหัวใจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด แต่มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยชีวิตได้ทันท่วงที หากคุณมีความเสี่ยง หรือเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของหัวใจ อย่ารอให้ถึงวันที่สายเกินไปเลยค่ะ